การเมืองถือว่าเป็นความมั่นคงสำคัญประการหนึ่งของประเทศนั้น หากการเมืองนิ่ง สงบ เป็นไปตามกลไก ก็จะทำให้เกิดบรรยากาศดีต่อนักลงทุน อย่างไรก็ตามการเมืองแต่ละประเทศแม้ว่าจะมีความแตกต่างหลากหลายบริบทกันตามสิ่งแวดล้อม ประวัติศาสตร์ แต่ก็มีบางจุดสามารถเอามาเป็นบทเรียนเชื่อมโยงกันได้ เพื่อให้เห็นภาพเราขอหยิบยกการเมืองรัสเซียบางอย่างมาเรียนรู้ซึ่งกันและกัน

ศูนย์รวมอำนาจเพียงคนเดียว

แม้ว่ารัสเซีย จะมีการแบ่งการปกครองเป็นประชาธิปไตยก็จริง ความจริงอำนาจการบริหาร การปกครองทั้งหมดกลับตกอยู่กับคนเดียว นั่นคือ ท่านปูติน การรวบอำนาจไว้คนเดียวแบบนี้อาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งน้อยมาก(จริงหรือ) แน่นอนว่าการรวมไว้คนเดียวแบบนี้หาก ปูติน เป็นอะไรไปขึ้นมา การเมืองรัสเซียจะเกิดการเสียศูนย์ และล้มครืนลงมาทันที เนื่องจากวันที่ปูตินไม่อยู่จะต้องเกิดสงครามชิงอำนาจอย่างร้อนแรงแน่นอน

ระบบอุปถัมภ์

การเมืองรัสเซีย เมื่อรวมศูนย์อำนาจไว้ที่คนเดียว นั่นทำให้เกิดระบบอุปถัมภ์ขึ้นมาด้วย ท่านผู้นำจะต้องมีการถ่ายทอดอำนาจของตัวเองผ่านคนที่ตัวเองไว้ใจ ใกล้ชิดเท่านั้น เพื่อรักษาฐานอำนาจของตัวเองไว้ ซึ่งคนที่ถูกท่านผู้นำแต่งตั้งมาก็จะทำแบบนี้เช่นกัน ตั้งแต่ระดับบน จนถึงระดับล่างเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเค้า หรือ กลุ่มของพวกเค้าจะรักษาอำนาจเอาไว้ได้มากที่สุด นานที่สุด เท่าที่จะทำได้ หากเราอ่านให้ดีจะเห็นว่าระบบอุปถัมภ์นี้มันจะคุ้นตาสักหน่อย ระบบนี้จะเน้นการเมืองไม่เน้นการทำงาน หากได้คนไม่ดีไปสะสมมากเข้าจะทำให้ภาพรวมของประเทศเสียไป

การต่อสู้ของกลุ่ม

เมื่ออำนาจถูกควบคุมไว้ด้วยกลุ่มคน กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแล้ว ที่เหลือจะทำอย่างไรล่ะ ก็ต้องต่อสู้กันเพื่อชิงอำนาจและความไว้วางใจให้เกิดกับท่านผู้นำมากที่สุดจนผลักดันตัวเองไปสู่กล่มผู้มีอำนาจนั้นให้ได้ วิธีสร้างภาวการณ์แข่งขันกันเพื่อสร้างผลงาน ถือว่า ท่านผู้นำปูติน ทำได้ดีมาก จนทำให้กลุ่มก้อนการเมืองแต่ละส่วนหันมาแข่งขันกันเพื่อสร้างความพอใจให้กับท่านผู้นำได้มากที่สุด จนสามารถก้าวขึ้นไปอยู่ในจุดสูงกว่าได้ แน่นอนว่าการต่อสู้กันแบบนี้มีทั้งต่อหน้า และลับหลังไปพร้อมกัน ข้อเสียของวิธีนี้ของท่านผู้นำคือ หากเราไม่มีทรัพยากรพร้อมจะไม่สามารถสู้กับกลุ่มอื่นได้เลย จนอาจจะทำให้ต้องหันหน้าไปยืมมือทรัพยากรจากต่างประเทศมาเพื่อผลักดันตัวเอง

จะเห็นว่าภายใต้การเมืองอันเงียบสงบภายใต้การบริหารของท่านผู้นำ ปูติน หลังฉากพวกเค้าก็ต้องเจอสงครามชิงอำนาจไม่แตกต่างจากประเทศอื่น ยิ่งวันใดปูตินไม่อยู่แล้ว ช่วงเปลี่ยนผ่านอำนาจสงครามครั้งนี้จะทวีความรุนแรงมากขึ้นไปอีก เชื่อว่าไม่เกิน 15 ปีเราคงจะได้เห็นแน่